ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่เรียนรู้ได้ตลอดชีวิต เพียงแค่เราเปิดเว็บไซต์ข่าวแล้วเลือกอ่านบทความภาษาอังกฤษสักชิ้นหนึ่งเราก็จะพบว่ามีศัพท์ใหม่ที่เราไม่เคยรู้จักมาก่อนแทรกอยู่ในบทความนั้นเสมอ ด้วยเหตุนี้ การเรียนภาษาอังกฤษจึงไม่ควรจบอยู่ในห้องเรียนเท่านั้น หากแต่ห้องแห่งการเรียนรู้ควรจะอยู่รอบตัวเรา หรือจากผู้คนที่เราพานพบในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะคนต่างชาติที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อกลางในการสื่อสาร
ฉะนั้น เราจึงควรต้องจดจำประโยคภาษาอังกฤษพื้นฐานไว้จำนวนหนึ่งสำหรับใช้งานในยามที่ต้องพูดคุยกับแขกต่างชาติ หรือเจ้าถิ่นในกรณีที่เราต้องเดินทางไปศึกษาหรือทำงานในต่างประเทศ ซึ่งภาษาอังกฤษก็ไม่แตกต่างจากภาษาไทยที่มีชุดคำศัพท์หรือประโยคจำนวนหนึ่งที่เราใช้บ่อยมากกว่าประโยคอื่น ๆ บทความนี้เราจึงได้รวบรวม 20 วลีภาษาอังกฤษที่เราสามารถจำแล้วนำไปใช้ได้ตลอดชีวิต โดยที่ความหมายและบริบทไม่มีวันเปลี่ยนแปลง มาดูกันเลยว่ามีประโยคอะไรที่คุ้นหูคุ้นตาเราบ้างหรือเปล่า
20 วลีภาษาอังกฤษที่ใช้ได้ตลอดชีวิต
1. Thank you so much
: ขอบคุณมาก
เราสามารถเพิ่ม For ต่อท้ายเพื่อบอกเหตุแห่งการขอบคุณนั้นได้ เช่น Thank you so much for a wedding gift
2. Excuse me
: ขอประทานโทษ
เราสามารถเพิ่มความสุภาพด้วยการใส่สร้อยต่อท้าย เช่น Excuse me sir หรือ Excuse me Madame เป็นต้น
3. I really appreciate
: รู้สึกขอบคุณเป็นอย่างมาก
เพื่อขยายให้ทราบถึงเหตุแห่งการขอบคุณ เราสามารถใส่กิจกรรมต่อท้าย เช่น I really appreciate you driving for me หรือ I really appreciate your help ได้เช่นกัน
4. I’m sorry
: ขอโทษ
เราสามารถเพิ่ม ‘for’ เพื่อขยายเหตุแห่งการขอโทษนั้น เช่น I’m sorry for lying to you
5. How does that sound?
: มันเป็นยังไงบ้าง
ประโยคคำถามนี้ใช้สอบถามความคิดเห็นของคู่สนทนา มักจะใช้ตามหลัง statement หรือกิจกรรมบางอย่างเพื่อสอบถามความเห็นด้วยของคู่สนทนา เช่น We will meet up at the cinema before 6pm, how does that sound?
6. What do you think?
: คุณคิดยังไง
ประโยคคำถามใช้สอบถามความคิดเห็นของคู่สนทนาในลักษณะเดียวกับ How does that sound? ใช้ตามหลัง statement เกี่ยวกับสิ่งของหรือกิจกรรมบางอย่าง เช่น I plan to go to Phuket this vacation, what do you think?
7. Never mind
: ช่างมันเถอะ
ใช้ในกรณีที่เราพยายามอธิบายบางสิ่งให้คู่สนทนาฟัง แต่ทำอย่างไรเขาก็ไม่เข้าใจเสียที หรือกรณีที่เราได้ย้ำเตือนคู่สนทนาให้ทำในบางสิ่ง แต่เขากลับลืมแล้วแจ้งให้คุณทราบว่าเขาลืม คุณจะตอบไปว่าช่างมันเถอะ สามารถใช้ในการแสดงความหงุดหงิดหรือไม่ใส่ใจได้ดุจกัน
8. That sound great!
: ฟังดูดีมากเลย
ใช้แสดงความคิดเห็นในเชิงเห็นด้วย เมื่อคู่สนทนาพูดถึงบางสิ่งหรือกิจกรรมบางอย่างแล้วขอให้เราช่วยแสดงความคิดเห็นโดยอาจใช้หรือไม่ใช้ How does that sound? ด้วยก็ได้ การใช้ That’s sound great ในคำตอบแสดงให้เห็นว่าเราเห็นชอบในความคิดเห็นหรือคำเชิญชวนนั้นเป็นอย่างมาก
9. Sorry, I don’t understand
: ขอโทษครับ/ค่ะ ฉันไม่เข้าใจ
อย่าลังเลหรือเขินอายที่จะใช้วลีนี้ในการพูดคุยกับคนต่างชาติ โดยเฉพาะเมื่อคู่สนทนาถามว่าเราเข้าใจในสิ่งที่เขาพูดหรือไม่ เช่นถามว่า Do you understand? หรือ Do you get it? ก็ได้ ทั้งนี้ เพื่อป้องกันการเข้าใจผิดและให้แน่ใจว่าสิ่งที่เขาต้องการจากเรา สิ่งที่เราเข้าใจคือสิ่งเดียวกัน
10. Could you repeat that please?
: กรุณาพูดซ้ำอีกครั้งได้ไหม?
บางครั้งการคุยกับ Native Speaker หรือคนต่างชาติที่มีสำเนียงภาษาอังกฤษฟังยากอาจจะไม่เข้าใจครั้งแรกที่เขาพูด ฉะนั้น อย่ากลัวที่จะขอให้คู่สนทนาพูดซ้ำอีกครั้งเพื่อจะได้เข้าใจตรงกันโดยไม่ผิดพลาด
11. That’s help a lot
: ช่วยได้เยอะเลย
ใช้ประกอบคำขอบคุณกรณีที่มีคนช่วยเหลือเรา เช่น หากเราพยายามยกกล่องแต่ไม่ไหว แล้วมีคนมาช่วยเรายก เราก็อาจจะบอกขอบคุณเขาว่า Thank you, that’s help a lot
12. What does that mean?
: หมายความว่าอย่างไร?
ใช้วลีนี้เมื่อเราไม่แน่ใจในความหมายของคำพูดหรือการกระทำของคู่สนทนา และต้องการให้เขาช่วยอธิบายหรือไขความให้กระจ่างชัดมากขึ้น
13. How do you spell that?
: คุณสะกดคำนั้นอย่างไร?
ใช้บ่อยในกรณีที่เราต้องการให้คู่สนทนาบอกวิธีการสะกดชื่อ-สกุลของเขา ซึ่งอาจมีวิธีการสะกดแตกต่างกันไป
14. What do you mean?
: คุณหมายความว่าอย่างไร?
วิธีใช้คล้ายคลึงกับ What does that mean แต่จะเน้นถามคู่สนทนาเกี่ยวกับความหมายของคำพูดมากกว่า
15. Nice to meet you
: ยินดีที่ได้รู้จัก
สามารถใช้สลับกับวลีที่มีความหมายเดียวกัน อาทิ Glad to know you, Pleasure to know you
16. Where are you from?
: คุณมาจากเมือง/ประเทศไหนหรือ?
มักจะใช้กับคนแปลกหน้าหรือคนต่างชาติเพื่อทำความรู้จัก คำตอบของคำถามนี้คือชื่อเมืองหรือประเทศ
17. What do you do?
: คุณทำงานอะไร?
เป็นคำถามที่ต้องการทราบเกี่ยวกับอาชีพของคู่สนทนา เวอร์ชั่นที่สั้นกว่าของ What do you do for a living?
18. What do you like to do in your free times?
: เวลาว่างคุณทำอะไร?
ใช้ถามเกี่ยวกับงานอดิเรกหรือกิจกรรมยามว่างของคู่สนทนา
19. What’s your phone number?
: หมายเลขโทรศัพท์ของคุณคืออะไร?
ใช้สำหรับสอบถามเบอร์โทรศัพท์ของคู่สนทนา
20. How can I help you?
: ต้องการให้ช่วยอะไรไหมครับ/คะ?
ใช้สำหรับสอบถามคู่สนทนาเพื่อหยิบยื่นความช่วยเหลือให้